วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

การทำดาบสตาร์วอร์

2.2.23 การทำดาบสตาร์วอร์
เปิดโปรแกรมมา สร้าง Composite ใหม่ สำหรับต้นฉบับวีดีโอ ควรมีความละเอียด 720x576 pixel เฟรมเรทที่ 25 สำหรับระบบ PAL ระยะเวลาอันนี้แล้วแต่วีดีโอของเรา

จากนั้นก็ import ไฟล์วีดีโอของเราเข้ามา แล้วลากไปวางไว้บน Comp1

 สร้างเลเยอร์ใหม่ เป็นแบบ Solid สีขาว

ไปที่เครื่องมือ Pen Tools สร้างรูปดาบขึ้นมาทับดาบเทียมในวีดีโอ จะเป็นการสร้าง Mask ขึ้นใหม่

ที่สำคัญ อย่าลืมกำหนดคีย์เฟรม Shape ของ mask1

กด PageUp หรือ PageDown เพื่อเลื่อนไปเฟรมก่อนหน้าและต่อไปและกำหนดรูปร่างของดาบให้ทันเหมือนกับในวีดีโอเสมอ โดยใช้เครื่องมือ Move Tools อย่าลืมดูเรื่องมิติของวัตถุด้วย                ( perspective , ระยะหน้า , ระยะหลัง )

ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเสร็จ



หากมีบางตอนที่ตัวดาบต้องอยู่หลังนักแสดง ก็ให้ข้ามไปก่อนทำเหมือนปกติไปเรื่อยๆ

จนเมื่อครบแล้ว

กลับมาช่วงที่ตัวดาบอยู่หลังนักแสดงอีกครั้ง สร้าง mask ขึ้นใหม่โดยใช้เครื่องมือ Pen Tools เหมือนเดิม เพื่อความปลอดภัยให้ล็อค mask1 ไว้ก่อนที่ mask2 นี้ ให้ตั้งค่าเป็น Subtract ไว้

ทำเหมือน mask1 คือกำหนดคีย์เฟรมไว้ทุกเฟรมหน้าที่ของ mask2 คือ แทนตัวนักแสดงให้บัง mask1 ไว้ทุกเฟรมที่ดาบอยู่หลังนักแสดงเพื่อความนิ่มนวลให้ปรับ Feather ไว้ด้วยตามเหมาะสม
**ให้กำหนดคีย์เฟรม opacity ของ mask2 ในช่วงปกติไว้ที่ 0 เสมอ เมื่อถึงช่วงที่ต้องการบังให้ปรับเป็น 100 และปรับเป็น 0 อีกครั้งเมื่อหมดจากช่วงที่ต้องการบัง**


เมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการ Duplicate เลเยอร์ที่เป็นแสงดาบ(mask1 กับ mask2) ออกไปอีก 3 และมาปรับ Feather ของแต่ละเลเยอร์เป็น 2 , 5 , 15 , 25 ตามลำดับถึงตอนนี้จะเห็นว่า ดาบเลเซอร์ของเรา เริ่มจะมีแสงเรืองๆออกมาแล้ว


สร้างเลเยอร์ขึ้นใหม่ เป็น Solid สีดำ วางไว้ใต้สุดและ cut (เลือกเลเยอร์วีดีโอและกด Ctrl + X) เลเยอร์วีดีโอของเราออกไปก่อน

สร้าง Composite ขึ้นใหม่ และ Paste(กด Ctrl + V) เลเยอร์วีดีโอลงไปจากนั้น ลาก Comp1 มาวางบน Comp2และเปลี่ยน Blending Mode ของ Comp1 ให้เป็น Screen


ไปที่ Effects / Adjust / Color Balance  แล้วปรับสีเอาตามใจชอบ  ควรปรับให้ครบทั้ง  3 อย่าง (shadow  . midtone , highlight)จากนั้นก็ลองกด spacebar เพื่อดูผลงาน พอใจแล้วก็กด Ctrl+M เพื่อ make Movieค่าที่ตั้งมาอยู่ก็ดีอยู่แล้ว กด Render ได้เลยแล้วก็รอจนเสร็จ จากขั้นตอนนี้เราจะได้ไฟล์ประเภท AVI และให้นำไปตัดต่อใส่เสียงอีกทีในโปรแกรม Video Editor เช่น Premiere Pro เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น